- ข้อ 1 ประกาศนี้ เรียกว่า
“ประกาศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Privacy Policy)”
- ข้อ 2 ประกาศนี้
ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
- ข้อ 3 ในประกาศนี้
- “มหาวิทยาลัย” หมายถึง
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- “อธิการบดี” หมายถึง
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายความว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.
2562 และกฎหมาย กฎ อื่นที่เกี่ยวข้อง
- "บุคคล" หมายความว่า
บุคคลธรรมดา
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล (Personal Data)
ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
แต่ไม่รวมถึงข้อมูลนิติบุคคล
และข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายความว่า การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(Personal Data Processing)
- “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่
มหาวิทยาลัย เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (Data Subject)
- “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายความว่า มหาวิทยาลัย หรือบุคคล คณะบุคคล หรือ
นิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
- “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายความว่า บุคคล
คณะบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม
ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ บุคคล คณะบุคคล
หรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
(Data Processor)
-
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคล
หรือคณะบุคคลซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบ
กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ตลอดจนประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Data Protection Officer: DPO)
- “นโยบาย” หมายความว่า
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU
Privacy Policy)”
- “คุกกี้” หมายความว่า
ไฟล์คอมพิวเตอร์เล็กๆ
ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็นลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(Cookies) เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร
ซึ่งจะมีผลในขณะที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์เท่านั้น
- ข้อ 4 วัตถุประสงค์ของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัย
ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเชื่อมั่นได้ว่ามหาวิทยาลัยมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม
ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมาย
กฎอื่นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้
จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดยมหาวิทยาลัย
รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคล คณะบุคคล
หรือนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของมหาวิทยาลัย
โดยมีเนื้อหาสาระตามประกาศนี้
- ข้อ 5 ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย
นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัยในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต
ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง
ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร
หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดยมหาวิทยาลัย
(รวมเรียกว่า “บริการ”)
บุคคลมีความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัย ตามความในวรรคแรก รวมถึง
- (1)
ผู้รับบริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
- (2) พนักงานมหาวิทยาลัย
- (3) คู่ค้าและผู้ให้บริการ
- (4) กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ
ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง
หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัย
- (5)
ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของมหาวิทยาลัย
- (6)
ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ https://cmu.ac.th/
รวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือ
ช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดยมหาวิทยาลัย
- (7) บุคคลอื่นที่ มหาวิทยาลัย
เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน
ครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย ผู้ค้ำประกัน
ผู้รับประโยชน์ในนิติกรรม เป็นต้น
นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว
มหาวิทยาลัยอาจกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
(“ประกาศ”)
เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล
วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
- ข้อ 6
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยเก็บรวบรวม
มหาวิทยาลัย เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง
ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
- (1)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัย
เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง
ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน
ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์
บริการ
หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดยมหาวิทยาลัย
หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับมหาวิทยาลัย
ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย
มหาวิทยาลัย เป็นต้น
- (2) ข้อมูลที่มหาวิทยาลัย
เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์
ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ
เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์
ผลิตภัณฑ์หรือบริการของมหาวิทยาลัย
ด้วยการใช้คุกกี้(Cookies)
หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เป็นต้น
- (3)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัย
เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่
มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่มหาวิทยาลัย
เช่น
การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง
การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่มหาวิทยาลัย
มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล
รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
นอกจากนี้
ยังหมายความรวมถึงกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่มหาวิทยาลัย
ดังนี้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ
ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของมหาวิทยาลัยอาจเป็นผลให้มหาวิทยาลัยไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
- ข้อ 7 หลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัยจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
โดยมหาวิทยาลัยจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้
มหาวิทยาลัยสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยไม่ต้อง
ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อ 8
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยเก็บรวบรวม
มหาวิทยาลัย อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้
ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้
ขึ้นอยู่กับบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือบริบทความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีกับมหาวิทยาลัย
รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย
เป็นการทั่วไป ทั้งนี้
เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือ
มีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
- (1) ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล
เป็นข้อมูลระบุชื่อเรียกของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น
ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ
เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน
หมายเลขใบประกอบการ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ
(สำหรับแต่ละอาชีพ) หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตน
หมายเลขประกันสังคม เป็นต้น
- (2)
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล
เป็นข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ
สถานภาพการสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาพูด
ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย
ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
เป็นต้น
- (3) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
เป็นข้อมูลเพื่อการติดต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร
อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์บ้าน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์
(Line ID, MS Teams ฯลฯ) แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น
- (4)
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา
เป็นรายละเอียดการจ้างงาน
รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น
ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ
สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง
หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง
ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน
ผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์
พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน หมายเลขบัญชีธนาคาร
สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา
วันที่สำเร็จการศึกษา เป็นต้น
- (5)
ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย
เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยผู้ปฏิบัติงาน
เช่น ผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์
หมายเลขกรมธรรม์ ประเภทกรมธรรม์ วงเงินคุ้มครอง
ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลม เป็นต้น
- (6)
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม
เป็นข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น สถานภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งทางการเมือง
การดำรงตำแหน่งกรรมการ
ความสัมพันธ์กับผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย
ข้อมูลการเป็นผู้มีสัญญาจ้างกับมหาวิทยาลัย ข้อมูลการเป็น
ผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่ทำกับมหาวิทยาลัย เป็นต้น
- (7)
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของมหาวิทยาลัย เช่น
ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลข PIN ข้อมูล Single
Sign-on (SSO ID) รหัส OTP ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์
ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง
ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน(เว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของมหาวิทยาลัย
เช่น https://www.cmu.ac.th/ หรือ แอปพลิเคชันต่าง ๆ)
ประวัติการสืบค้น คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน
หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์
รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูล Browser ภาษาที่ใช้งาน
ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น
- (8)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ
ข้อมูลความเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ
(ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น
- ข้อ 9 คุกกี้
มหาวิทยาลัยเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้
รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของมหาวิทยาลัย
เช่น https://www.cmu.ac.th/
หรือบนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามแต่บริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งาน
ทั้งนี้
เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของมหาวิทยาลัย
และเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของมหาวิทยาลัย
และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ
มหาวิทยาลัยให้ตรงกับความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น
โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์
(Web Browser) ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อ 10 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ
และคนเสมือนไร้ความสามารถ
กรณีที่มหาวิทยาลัย
ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม
เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์
คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
มหาวิทยาลัยจะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์
หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้
เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
กรณีที่มหาวิทยาลัย
ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์
คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
และมาพบในภายหลังว่ามหาวิทยาลัย
ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์
หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี
มหาวิทยาลัยจะดำเนินการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว
เว้นแต่
มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม
ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
- ข้อ 11 วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัย
ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ
ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของบริการหรือกิจกรรมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
ถูกประมวลผลข้อมูล
ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับมหาวิทยาลัย
หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ ทั้งนี้
มหาวิทยาลัยจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น
โดยวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย
รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์ที่ระบุดังต่อไปนี้
- (1)
เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการดำเนินงานตามที่มหาวิทยาลัยได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง
หรือเป็นการจำเป็นเพื่อใช้อำนาจทางกฎหมายที่มหาวิทยาลัยมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการ
ตามพันธกิจดังปรากฏในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย
พ.ศ.2551 และกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ
ประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง เช่น เพื่อจัดการศึกษา
เพื่อส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง
เพื่อทำการวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการและเกิดประโยชน์แก่สังคมเป็นส่วนรวม
เพื่อบริการทางวิชาการแก่สังคม
เพื่อทะนุบํารุงและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม
เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
- (2) เพื่อใช้ยืนยันตัวตน
หรือพิสูจน์ตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการให้บริการของมหาวิทยาลัย
- (3) เพื่อใช้วิเคราะห์
ปรับปรุง พัฒนาคุณภาพการให้บริการของมหาวิทยาลัย
หรือเพื่อทำการวิจัยหรือบริการทางวิชาการ
- (4)
เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กรของมหาวิทยาลัย
รวมถึงการรับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัย
การสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ
ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย พ.ศ.2551
และกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนการจัดการเกี่ยวกับสิทธิและสวัสดิการ
- (5)
เพื่อการประชาสัมพันธ์กิจกรรม
โครงการของมหาวิทยาลัยหรือที่มหาวิทยาลัยร่วมมือกับหน่วยงานแห่งอื่น
หรือการสื่อสารข้อมูลของมหาวิทยาลัย
- (6)
เพื่อควบคุมการดำเนินงานภายในมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามกฎหมาย
กฎ ข้อบังคับ ประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ
ประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องที่มีผลบังคับใช้
หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ
ตลอดจนเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่มหาวิทยาลัยมีต่อหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นที่มีอำนาจตามกฎหมาย
- ข้อ 12 ประเภทบุคคลที่มหาวิทยาลัย
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
มหาวิทยาลัยอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
- (1)
หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่มหาวิทยาลัยต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญอื่น
การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ หน่วยงาน
ผู้บังคับใช้กฎหมาย
หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแลหรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ
เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้รักษาการ กรมการปกครอง
กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจ ศาล สำนักงานอัยการ
กรมควบคุมโรค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมการกงสุล
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น
- (2) คณะกรรมการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัย
อาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะต่าง
ๆ เช่น สภามหาวิทยาลัย สภาวิชาการ สภาพนักงาน
คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย คณะกรรมการบริหารงานบุคคล
คณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์
คณะกรรมการสืบสวน/สอบสวน คณะกรรมการสรรหา เป็นต้น
- (3)
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยบุคคลภายนอกที่มหาวิทยาลัย
จัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ
สิทธิประโยชน์ เช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล
บริษัทผู้จัดทำ Payroll ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นต้น
- (4) พันธมิตรทางธุรกิจ
มหาวิทยาลัยอาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่ร่วมงานกับ
มหาวิทยาลัย
เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น หน่วยงาน
ผู้ให้บริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อผ่านบริการของ
มหาวิทยาลัย ผู้ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา
สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม
ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เป็นต้น
- (5) ผู้ให้บริการ มหาวิทยาลัย
อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน
หรือสนับสนุนการดำเนินการของมหาวิทยาลัย เช่น
ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล (เช่น คลาวด์
โกดังเอกสาร) ผู้พัฒนาระบบ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน
เว็บไซต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร
ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID
ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์
ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก
ผู้ให้บริการขนส่ง เป็นต้น
- (6) ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น
มหาวิทยาลัยอาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น
เช่น ผู้ติดต่อ มหาวิทยาลัย สมาชิกในครอบครัว
มูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร วัด โรงพยาบาล สถานศึกษา
หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้
เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของ มหาวิทยาลัย
การฝึกอบรม การรับรางวัล การร่วมทำบุญ บริจาค เป็นต้น
- (7)
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
มหาวิทยาลัยอาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น
เช่น การดำเนินการที่กำหนดให้
มหาวิทยาลัยต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
หรือมติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น
ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ข้างต้น
เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย
เป็นการทั่วไป
เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
- ข้อ 13
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณีมหาวิทยาลัยอาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud)
ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ
เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ มหาวิทยาลัย
ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
กรณีที่ มหาวิทยาลัย
มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศปลายทาง
มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล
หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมายกำหนด
ณ ขณะที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศปลายทาง ได้แก่
- (1)
เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้มหาวิทยาลัย
ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
- (2)
ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ
ทั้งนี้
ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- (3)
เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญากับ
มหาวิทยาลัย
หรือเป็นการทำตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
- (4)
เป็นการกระทำตามสัญญาของมหาวิทยาลัย
กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- (5)
เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย
หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือของบุคคลอื่น
เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
- (6)
เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
มหาวิทยาลัยอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ทั้งนี้
มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศปลายทางดังกล่าวมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
อย่างไรก็ดี
ในกรณีที่ประเทศปลายทางไม่มีมาตฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเป็นไปตามข้อยกเว้นตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
- ข้อ 14
ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัย
จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามกฎหมาย
กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ
คำสั่งที่มหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหรือ
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น
ซึ่งรายละเอียดขึ้นอยู่กับประเภทของบริการหรือกิจกรรมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกประมวลผลข้อมูล
ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับมหาวิทยาลัย
หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ ทั้งนี้
เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นความจำเป็นตามกฎหมาย
กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง
หรือวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว มหาวิทยาลัยจะทำการลบ
ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป
ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น
เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมาย
ซึ่งจะต้องใช้สิทธิทางศาล
ในกรณีเช่นนี้ถือว่ามหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป
จึงขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อโต้แย้งนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดและรวมตลอดถึงเท่าที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
- ข้อ 15
การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
มหาวิทยาลัย
อาจมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ซึ่งเป็นบุคคล ที่สาม
ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของมหาวิทยาลัย
ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง
ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง
(Outsourcing) หรือเป็น ผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing
service/provider)
หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะ
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือในฐานะอื่น เช่น
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วม
มหาวิทยาลัยจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของมหาวิทยาลัย
ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่
มหาวิทยาลัยมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
หรือในฐานะอื่น
ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยมอบหมายให้ประมวลผลรวมถึงวัตถุประสงค์
ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของมหาวิทยาลัยเท่านั้น
โดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง(ผู้ประมวลผลช่วง)
เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ดังนี้ มหาวิทยาลัย
ได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องดำเนินการให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
จัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการช่วง(ผู้ประมวลผลช่วง)เพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่
ความรับผิด
และรายละเอียดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบและมาตรฐาน
ที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างมหาวิทยาลัยกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้
เพื่อให้การปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพ
มหาวิทยาลัยได้กำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องแจ้งการดำเนินการดังกล่าวให้มหาวิทยาลัยทราบด้วย
- ข้อ 16
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัย
มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น
ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย
อย่างเคร่งครัด
ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่
โดยมหาวิทยาลัย
มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล
และเป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
นอกจากนี้ เมื่อมหาวิทยาลัย มีการส่ง
โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม
ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา
หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น
มหาวิทยาลัยจะกำหนดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยเก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
- ข้อ 17 การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
บริการของมหาวิทยาลัยอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้
มหาวิทยาลัย
ขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น
ๆ เพื่อทราบรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัย
ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สามดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา
นโยบายความเสียหาย
หรือการกระทำละเมิดอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
- ข้อ 18 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัย
ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562
- ข้อ 19 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วนั้น
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
- (1)
สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึง
รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัย
เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่กรณีที่มหาวิทยาลัย
มีสิทธิปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
หรือกรณีที่การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
- (2)
สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง
ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง
เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์
และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
- (3)
สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ มหาวิทยาลัย
ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป
- (4)
สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
- (ก)
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัย
ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
- (ข)
ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม
ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
- (ค)
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่มหาวิทยาลัย
ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม
แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้
มหาวิทยาลัย
เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
- (ง)
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัย
กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ
อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- (5)
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม
ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่กรณีที่ มหาวิทยาลัย
มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น
มหาวิทยาลัย สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า
หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของมหาวิทยาลัย
- (6)
สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่
มหาวิทยาลัย ในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรักษาโดย
มหาวิทยาลัย
เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้มหาวิทยาลัย
จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับมหาวิทยาลัย
ที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่
- (7) สิทธิในการขอรับ
ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากมหาวิทยาลัย
ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ
รวมถึงอาจขอให้มหาวิทยาลัย
ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น
ทั้งนี้
การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
การใช้สิทธิตามวรรคหนึ่ง จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมาย
กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งกำหนด
และมหาวิทยาลัยอาจปฏิเสธการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามกฎหมาย
กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง
หรือหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลบางกรณี
อาจต้องชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ
ที่จำเป็นเพื่อการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น
มหาวิทยาลัยจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้า
- ข้อ 20
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัย รับทราบและจะดำเนินการให้บุคคลากรของมหาวิทยาลัย
หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทราบว่า
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและ
ถูกลงโทษทางวินัยตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย(สำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย)
หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล(สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล)
ทั้งนี้
ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีต่อมหาวิทยาลัย
และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรอง กฎ ระเบียบ
คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
- ข้อ 21
การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่า มหาวิทยาลัย
มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แจ้งให้มหาวิทยาลัยแก้ไขข้อกังวลหรือขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว
มหาวิทยาลัยเพิกเฉยไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่กฎหมาย
กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งกำหนด
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมายแล้วแต่กรณี
- ข้อ 22
การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มหาวิทยาลัย อาจพิจารณาปรับปรุง
แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร
และจะเผยแพร่ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถรับทราบ
ผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://www.cmu.ac.th/ หรือแอปพลิเคชัน
หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยดำเนินการ
โดยปรากฎวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่
อย่างไรก็ดี มหาวิทยาลัย
แนะนำและสนับสนุนให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำการตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอผ่าน
https://www.cmu.ac.th/ หรือ แอปพลิเคชัน
หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยดำเนินการ
โดยเฉพาะก่อนที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่มหาวิทยาลัย
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของมหาวิทยาลัย
ภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่
ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้
กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถหยุดใช้งานหรือใช้บริการ
รวมถึงสามารถติดต่อมายังมหาวิทยาลัย
เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
- ข้อ 23 การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัย
ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของมหาวิทยาลัย
หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้
หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในข้อ
19 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
- (1) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
239 ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
50200
โทรศัพท์ :+66 5394 1000, +66 5394 1300
โทรสาร : +66 5321 7143
อีเมล : ccarc@cmu.ac.th
- (2)
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection
Officer: DPO) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
239 ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
50200
โทรศัพท์ :+66 5394 1000, +66 5394 1300
โทรสาร : +66 5321 7143
อีเมล: ccarc@cmu.ac.th
- ข้อ 24 ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการในประกาศนี้
ในกรณีมีปัญหาในทางปฏิบัติตามประกาศนี้ให้อธิการบดีเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
และให้ถือเป็นที่สุด